มีงบน้อย เลือกประกันชีวิตยังไงดี

ประกันชีวิตออนไลน์,ซื้อประกันชีวิตออนไลน์

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า การมีประกันชีวิตนั้นเป็นตัวช่วยให้เราในวันที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือไม่คาดฝันขึ้นได้ แต่สำหรับหลายคนที่มีรายได้น้อยการซื้อประกันชีวิตเป็นเรื่องที่ต้องคิดและคำนวณอย่างถี่ถ้วน ทั้งเรื่องของการส่งเบี้ยประกันที่เหมาะกับรายได้ ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและเหมาะกับตัวเอง


วิธีเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงเหมาะกับผู้มีรายได้น้อย?

 

แม้จะมีรายได้น้อยแต่เราก็สามารถเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเองได้ โดยการคำนวณและประเมินข้อมูลต่างๆ ดังนี้

 

1. ตั้งงบประมาณที่ต้องการ

อย่างแรกที่เราต้องทำก่อนการเลือกซื้อประกันชีวิตก็คือ การตั้งงบประมาณที่ต้องการเอาไว้ เพื่อให้เราจำกัดตัวเลือกของแผนประกันให้แคบลงได้ และทำให้สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น

 

 

 

2. ประเภทของประกันชีวิต

หนึ่งในขั้นตอนที่ทำสำคัญที่สุดของการซื้อประกันชีวิต คือ การเลือกประเภทของประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท ทั้งด้านความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกประเภทประกันชีวิตที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรายได้หลักของเรา โดยประกันชีวิตนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

 

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา

ประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับ ผู้มีรายได้น้อย เพราะมีเบี้ยประกันไม่สูง แต่การคุ้มครองของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาจะคุ้มครองให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเสียชีวิตภายในเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น เช่น 5 ปี 10 ปี  20 ปี หมายความว่าคนทำประกัน จะได้ผลประโยชน์ก็ต่อเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น ถ้าครบกำหนดตามสัญญาแล้วยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ได้รับเงินคืนใดๆ ทั้งสิ้น 

 

ประกันแบบตลอดชีพ

เป็นประกันชีวิตที่เน้นคุ้มครองในระยะยาว โดยจะจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี และให้ความคุ้มครองตลอดชีพ หรือจนถึงอายุ 99 ปี ขึ้นกับแต่ละแผนประกันโดยตลอดระยะเวลาจะไม่ได้เงินคืน ประกันชีวิตประเภทนี้จึงเหมาะจะทำไว้เป็นเงินก้อนให้กับลูกหลาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าครอบครัวจะไม่ลำบากเมื่อจากไปนั่นเอง

 

ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์

เป็นประกันชีวิตที่ที่ให้ความคุ้มครองพร้อมมีการออมเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย โดยจะมีทั้งแบบระยะสั้น กลาง ยาว จุดเด่นอยู่ที่เป็นการออมเงินพร้อมกับได้ความคุ้มครองเพิ่มไปด้วยพร้อมๆ กัน

 

ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ

ประกันชีวิตประเภทนี้ ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน นับแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุ หรืออายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นต้นไป แล้วแต่เงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ 

 

3. เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ

เลือกประกันชีวิตจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งด้านชื่อเสียง และหลักความคุ้มครองต่างๆ เพื่อที่เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่เสี่ยงต่อการถูกช่อโกงจากบริษัทที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

 

4. ระยะเวลาการชำระต้องเหมาะสม

ยิ่งมีรายได้ไม่ได้สูง เรายิ่งจำเป็นต้องดูระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันที่มีความเหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกันของเราให้มากที่สุด โดยระยะเวลาการชำระมีทั้งแบบราย 3 เดือน ราย 6 เดือน รวมถึงการจ่ายแบบรายได้ 

 

 

5. เลือกซื้อประกันผ่านออนไลน์

อีกข้อสำคัญในการเลือกซื้อประกันชีวิต สำหรับผู้มีรายได้น้อย คือการเลือกซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะทำให้เรามีสามารถศึกษาข้อมูลได้อย่างละเอียด ได้ข้อมูลที่หลากหลาย และยังมีเวลาให้เราได้ไตร่ตรองอย่างไม่จำกัดอีกด้วย เพื่อให้สามารถเลือกประกันที่เหมาะสมกับรายได้และตัวเรามากที่สุด

 

หากพูดถึงประกันชีวิตแบบออนไลน์ ประกันชีวิตของไทยประกันชีวิตเอง ก็มีช่องทางการซื้อขายประกันออนไลน์ที่สะดวก ไว้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งเป็นช่องทางที่เราสามารถซื้อประกันออนไลน์ได้ง่าย สะดวก ทั้งยังมีข้อมูลของแผนประกันที่ละเอียดและครบถ้วนอีกด้วย

 

การทำประกันชีวิตนั้นสำคัญมากสำหรับทุกคน เพราะไม่รู้เลยว่าเราจะเจอกับอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยขึ้นมาในวันใด และไม่ว่าราจะมีรายได้มากหรือน้อยก็สามารถเลือกทำประกันได้ เพียงแค่ศึกษาข้อมูลและเลือกแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับรายได้ของเราเท่านั้นเอง