ป่วยเป็นมะเร็งต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างเท่าไหร่ถึงจะพอ

ประกันมะเร็ง ออนไลน์, ค่ารักษาโรคมะเร็ง

มั่นใจได้เลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก โรคมะเร็ง โรคร้ายแรงยอดฮิตของคนไทย และเป็นเหมือนฝันร้ายของทุกๆ คน ที่สำคัญกว่านั้นคือคุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย เป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือ ผู้สูงอายุ และแม้ว่าจะพยายามดูแลตัวอย่างดีแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถคาดเดาความเสี่ยงของการเกิดโรคได้เลย

 

เพราะมะเร็งนั้นถึงจะเป็นโรคที่ร้ายแรงก็จริง แต่ในทางกลับกันก็เป็นโรคที่ใกล้ตัวเราทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลยว่าเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ คุณจะต้องกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของโรคมะเร็งหรือไม่ นอกจากความร้ายแรงของโรคที่พอจะทราบกันดีอยู่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสูงลิบลิ่วขนาดไหน ยิ่งหากต้องใช้เวลาในการรักษาเป็นหลักปี ค่าใช้จ่ายนี้ก็จะสูงขึ้นเป็นภาระติดตามตัวของคุณไปด้วย

 

วันนี้จึงจะมาเปิดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็ง ตอบคำถามที่ว่า ‘ป่วยเป็นมะเร็งต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เท่าไหร่ถึงจะพอ?’ กับ 5 อันดับมะเร็งยอดฮิตที่คนไทยเป็นมากที่สุด เพื่อให้คุณได้พิจารณารวมถึงวางแผนรับมือได้ในอนาคต *อ้างอิงจากการเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งแต่ละชนิด ในปี พ.ศ. 2562 - 2564 ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง

 

 

เปิดค่าใช้จ่ายในการรักษา 5 อันดับโรคมะเร็งยอดฮิตที่คนไทยเป็นมากที่สุด

 

  1. มะเร็งลำไส้ใหญ่
  2. มะเร็งปากมดลูก
  3. มะเร็งเต้านม
  4. มะเร็งหลอดลมและปอด
  5. มะเร็งตับ

 

 

 

1. มะเร็งลำไส้ใหญ่

 

มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็จะลุกลามกลายเป็นโรคมะเร็ง

 

เริ่มจากค่าใช้จ่ายการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยทั่วไป ที่อาจะเริ่มต้นที่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงการส่องกล่องที่มีค่าใช้จ่าย 15,000 บาท ขึ้นไป (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจ)

  และค่าใช้จ่ายสำหรับกระบวนการรักษา เช่น ค่าจำลองการฉายรังสี (CT Simulation) เริ่มต้น 8,500 บาท MRI Simulation (28 ครั้ง) เริ่มต้นที่ 8,000 บาท ยังไม่รวมค่าผ่าตัด และ เคมีบำบัด เริ่มต้นที่หลักแสนบาท ซึ่งหากเป็นระยะแรกอาจรักษาโดยการผ่าตัด แต่ในระยะลุกลามจำเป็นต้องใช้การฉายแสงและเคมีบำบัดร่วมด้วย

 

 

2. มะเร็งปากมดลูก

 

มะเร็งปากมดลูก คือการเกิดก้อนเนื้อบริเวณปากมดลูก มดลูก หรือ ช่องคลอด มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดกับผู้หญิงในวัย 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันก็มีแนวโน้มจะเกิดกับผู้หญิงอายุน้อย หรือ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HPV

การตรวจหามะเร็งปากมดลูกทำได้หลายวิธี เช่น วิธี ThinPrep ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 1,000 - 5,000 บาท วิธี Colposcopy ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 10,000 บาท

 

การรักษามะเร็งปากมดลูกทำได้โดยการผ่าตัดมดลูก ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 120,000 บาท หรือหากต้องทำการผ่าตัดทั้งมดลูก รังไข่ และเลาะถุงน้ำรังไข่ เริ่มต้นที่ 150,000 บาท (ยังไม่รวมค่าใช้จากการผ่าตัดด้วยกล้อง)

 

 

3. มะเร็งเต้านม

 

มะเร็งเต้านมเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายยอดฮิตที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงไทย เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในท่อน้ำนม หรือ ต่อมน้ำนม เมื่อคลำดูอาจพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านม หรือ รักแร้ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้

 

โดยสามารถตรวจหาความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ด้วยวิธีการ Digital Mammogram และ การอัลตราซาวด์ทรวงอก ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หากเป็นการเจาะตัดชิ้นเนื้อที่เต้านมส่งตรวจด้วยการใช้เข็มชนิดพิเศษ ราคาเริ่มต้นที่ 12,000 บาท)

 

ส่วนการผ่าตัดเต้านมนั้นค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันตามรายละเอียด เช่น การผ่าตัดเต้านมและเลาะต่อมน้ำเหลืองข้างรักแร้ หรือ การผ่าตัดเต้านมแบบสงวนเต้าและไม่เลาะต่อมน้ำเหลืองออก ราคาเริ่มต้นที่ 130,000 บาท ขึ้นไป

 

 

4. มะเร็งหลอดลมและปอด

 

มะเร็งชนิดนี้ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ หรืออาจเกิดจากการได้รับควันบุหรี่มือสองจากผู้ที่สูบ นอกจากนั้นยังเป็นมะเร็งที่ไม่สามารถตรวจพบได้ในระยะแรก แต่จะตรวจพบเมื่อเกิดการแพร่กระจายแล้ว จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดมะเร็งที่มีความเสี่ยงสูง

 

การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดสามารถทำได้โดยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (Low Dose CT) ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 3,000 - 7,000 บาท และการรักษาทำได้โดยการผ่าตัด ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 200,000 บาท ค่าเคมีบำบัด และ รังสีรักษา เริ่มต้นที่ 100,000 บาท ซึ่งหากเป็นการรักษาในระยะแพร่กระจายอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

 

 

5. มะเร็งตับ

 

มะเร็งตับเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตในเพศชายเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเพศชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือ ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด อ่อนเพลีย ท้องโต อาเจียนเป็นเลือด ตัวเหลือง ตาเหลือง

 

การคัดกรองมะเร็งตับสามารถทำได้โดยการเข้าโปรแกรมตรวจร่างกาย ซึ่งจะเป็นการตรวจเช็คการทำงานของตับ ตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ หรือ การเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 - 12,000 บาท ส่วนการรักษามะเร็งตับนั้นเน้นการฉายรังสีรักษา เพื่อช่วยทำลายก้อนมะเร็งที่ตับ หรือ การยั้บยั้งการกระจายและเจริญเติบโตของมะเร็งโดยเคมีบำบัด ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 100,000 บาท

 

 

ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง 5 ชนิดยอดฮิตที่ได้กล่าวไปข้างต้น และทั้งต้องต่อสู้กับอาการป่วย ทั้งแบกรับค่าใช้จ่ายหลักแสนที่อาจทะลุเพดานไปแตะหลักล้านไปพร้อมๆ กัน คงจะเกิดความเครียด และ ความกังวลใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งการไม่มีแผนสำรองในการรับมือกับโรคที่เกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจขณะที่ต้องรักษา จนทำให้คุณรู้สึกหมดกำลังใจในการต่อสู้อาการป่วย

 

หากคุณต้องการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองด้วยแผนรับมือที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสุดโหด และ เหมาะสำหรับโรคร้ายแรงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ประกันมะเร็ง คือคำตอบที่ดีสุด ที่จะไม่ปล่อยให้คุณต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง และ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจกับความปลอดภัยที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง