เป็นโรคกรดไหลย้อนเสี่ยงเป็นมะเร็งจริงหรอ

ประกันมะเร็ง ออนไลน์, กรดไหลย้อนเสี่ยงเป็นมะเร็ง

ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องของคนในเมืองและคนทำงาน ทำให้ “โรคกรดไหลย้อน” กลายเป็นโรคฮิตของคนเมืองและหนุ่มสาววัยทำงาน ซึ่งโรคกรดไหลย้อนนี้แม้ดูเหมือนจะเป็นโรคที่มีอาการไม่ร้ายแรง แต่ก็เป็นโรคที่เป็นแล้วไม่ควรนิ่งนอนใจ

 

 

โรคกรดไหลย้อน เกิดจากอะไร

 

โรคกรดไหลย้อน เกิดจากการที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดจากในกระเพาะอาหาร โดยสาเหตุหลักๆ ของโรคนี้ก็มาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและการรับประทานอาหารของเราที่ส่งผลทำให้กระเพาะทำงานหนัก จนหลั่งน้ำกรดมาย่อยมากกว่าเดิม จนเกิดเป็นกรดที่เกินในกระเพาะ และกลายเป็นอาการกรดไหลย้อนนั่นเอง

 

 

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน

 

พฤติกรรมในการใช้ชีวิตหลายอย่างที่เราไม่ได้สังเกตุนั้น อาจเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อนโดยไม่รู้ตัว โดยพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นกรดไหลย้อนหลายสาเหตุ เช่น

 

พฤติกรรมการรับประทานอาหาร

 

พฤติกรรมการทานอาหารถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อน โดยพฤติกรรมการทานอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การทานอาหารในปริมาณมากและการทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะจะส่งผลให้ร่างกายผลิตกรดเพื่อย่อยอาหารในปริมาณที่มากจนเกิดโอกาสที่กรดจะล้นและไหลย้อนขึ้น รวมไปถึงการทานอาหารตอนดึก ทานเสร็จแล้วนอนเลย ทานไม่เป็นเวลา และการไม่ทานผักผลไม้ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้กระเพาะหลั่งกรดออกมามากกว่าปกติ หลั่งไม่เป็นเวลา จนส่งผลให้หูรูดกระเพาะเสื่อม และควบคุมกรดที่จะกลายเป็นกรดไหลย้อนไม่ได้อีกต่อไป

 

 

พฤติกรรมการนอน

 

พฤติกรรมการนอนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อน โดยเฉพาะพฤติกรรมการ “รับประทานแล้วนอน” เพราะจะส่งผลให้หูรูดทำงานที่ไม่ดี แล้วเกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นไปได้ รวมไปถึงท่านอนราบก็ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

 

พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์

 

การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำลายแค่ตับ แต่ยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหาร ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดทำงานได้ดีเกิดการคลายตัว แล้วส่งผลให้กรดที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหารจนเกิดเป็นโรคกรดไกลย้อนนั่นเอง

 

พฤติกรรมการออกกำลังกาย

 

แม้การออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่พฤติกรรมการออกกำลังกายไม่ถูกเวลาอย่างการออกหลังกินเสร็จใหม่ๆ ก็ส่งผลต่อการเกิดกรดไหลย้อนได้เช่นกัน

 

พฤติกรรมด้านอารมณ์-ความเครียด

 

ผู้ที่มีความเครียดมักมีภาวะหลอดอาหารที่มีความไวเกินต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้หลอดอาหารอ่อนไหวต่อกรด เมื่อมีกรดไหลย้อนขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อยก็จะมีอาการแสดงทันที

 

อาการกรดไหลย้อนเป็นอย่างไร

 

อาการของโรคกรดไหลย้อนมีด้วยกันหลายอาการ โดยเบื้องต้นมักมีอาการต่างๆ ดังนี้

 

  • อาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามไปถึงกลางหน้าอกหรือลำคอ หลังการรับประทานอาหาร
  • อาการแน่นหน้าอก เกิดอาการจุก แน่นหน้าอก
  • อาการเรอเหม็นเปรี้ยว ซึ่งเกิดจากกรดที่มีรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาทางปาก
  • อาการท้องอืด เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง คล้ายอาหารไม่ย่อย
  • อาการคลื่นไส้ มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนตามมาหลังจากการรับประทานอาหาร
  • อาการหอบ-ไอ มีอาการเหนื่อยหอบ ไอแห้ง ไอและเจ็บคอเรื้อรัง

 

โรคกรดไหลย้อนทำให้เป็นมะเร็งได้จริงหรือ

 

เนื่องจากโรคกรดไหลย้อน คือการมีกรดในกระเพาะอาหารไหลขึ้นมาสู่หลอดอาหาร ทำให้นำไปสู่การเกิดโรคกรดไหลย้อนลงกล่องเสียง ซึ่งการเกิดกรดไหลย้อนลงกล่องเสียงนี้ จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง หรือเกิดแผลรุนแรงบริเวณหลอดอาหาร กล่องเสียง และช่องคอได้  ซึ่งถ้าหากมีการอักเสบเรื้อรังไปนานๆ จะทำให้เซลล์บริเวณเยื่อบุผิวมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งที่หลอดอาหาร และกล่องเสียงได้นั่นเอง

 

3 วิธีรักษาโรคกรดไหลย้อน

 

การรักษาโรคกรดไหลย้อนมีวิธีการรักษาหลักๆ ด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้

 

1. ปรับพฤติกรรมส่วนตัว

วิธีการรักษาโรคกรดไหลย้อนเริ่มได้ด้วยการปรับพฤติกรรมส่วนตัว และการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งการรับประทานอาหาร การนอนหลับ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ รวมถึงการออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนักตัว

 

2. การรักษาโดยการใช้ยา

การรักษาภาวะกรดไหลย้อนขึ้นอยู่กับอาการและอายุของผู้ป่วย ดังนั้นแพทย์อาจแนะนำให้ทานยาเพื่อลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหารเบื้องต้นตามระดับอาการและอายุของผู้ป่วย

 

3. การผ่าตัด

การผ่าตัดกรดไหลย้อนหรือผ่าตัดหูรูดกระเพาะ จะเป็นวิธีการรักษาสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง ที่อาจจะรักษาด้วยการทานยาแต่ไม่ได้ผล หรือมีความผิดปกติของโครงสร้างอวัยวะภายในร่างกาย

 

4. วิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อน

 

วิธีการป้องกันโรคกรดไหลย้อนมีกุญแจสำหรับคือการสร้างพฤติกรรมการทานอาหารและการใช้ชีวิตอย่างถูกวิธี โดยสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

 

เลือกรับประทานอาหาร

ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ปรุงด้วยการทอด อาหารมัน อาหารย่อยยาก อาหารที่มีรสเปรี้ยว เค็ม หรือเผ็ดจัด รวมถึงการลดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

 

ใส่ใจนิสัยการรับประทานอาหาร

พยายามรับประทานอาหารไม่ให้ทานเร็วเกินไป ควบคุมการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้อยู่ในปริมาณที่พอดี ไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป รวมถึงหลังรับประทานอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการนอน การออกกำลังกาย การยกของหนักในทันที เพื่อให้กระเพาะได้ทำงานอย่างเต็มที่ก่อน

 

ควบคุมน้ำหนัก

ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินควรควบคุมน้ำหนัก เพื่อลดภาวะหรือความเสี่ยงที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้องที่สูง สาเหตุของการเกิดไหลย้อนในกระเพาะอาหาร

 

ทำจิตใจให้สบายไม่เครียด

เนื่องจากความเครียดส่งผลให้หลอดอาหารอ่อนไหวและส่งผลจ่ออาการกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ควรควรทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด ซึ่งวิธีนี้ไม่ได้เป็นผลดีเฉพาะกับโรคกรดไหลย้อนแต่จะส่งผลไปถึงสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย

 

แม้โรคกรดไหลย้อนจะเป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรง แต่ก็เป็นโรคที่สามารถนำไปสู่โรคร้ายอย่างมะเร็ง และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรมองข้ามการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน และการวางแผนสำหรับสุขภาพในอนาคต โดยการทำประกันโรคมะเร็ง ประกันโรคร้ายแรง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจเพราะสามารถช่วยคุ้มครองและดูแลเราได้แม้ในวันที่โรคร้ายนั้นมาเยือน