6 สารปนเปื้อนในอาหารที่คุณกินอย่างไม่รู้ตัว

ประกันโรคร้ายแรง, สารปนเปื้อนในอาหาร

You are what you eat ทานอาหารแบบไหน ก็จะส่งผลแบบนั้นกับร่างกาย เพราะอาหารคือปัจจัยที่สำคัญมากกับการดำรงชีวิต ถ้าเลือกทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน ผ่านกระบวนการปรุงที่ถูกสุขอนามัย ก็จะกลายเป็นขุมพลังชั้นดี และเกราะป้องกันโรคร้ายให้กับตัวเราเอง

 

แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต้องแข่งขันกับเวลา คงเป็นเรื่องยากที่คุณจะมานั่งทำอาหารกินเองทุกมื้อ และอาหารสำเร็จรูปที่ซื้อได้จากร้านค้าทั่วไปก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าปลอดภัย 100% หรือเปล่า

 

 

สารปนเปื้อนในอาหาร ที่คุณอาจกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

 

วันนี้เราจึงอาสามาแชร์ข้อมูล 6 สารปนเปื้อนในอาหาร ที่คุณอาจกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก และระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารได้มากขึ้น

 

1. ยาฆ่าแมลง

 

สารปนเปื้อนร้ายแรงในอาหารอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจปะปนมาจากพืชผลทางการเกษตรทุกชนิด โดยเฉพาะผักหรือผลไม้ที่ต้องเน้นผลสวย ใบสวย ซึ่งหากรับประทานเข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ มึนงง อาเจียน คลื่นไส้ ชักเกร็ง หมดสติ หายใจติดขัดและอาจหยุดหายใจได้ แต่ทั้งนี้ระดับความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับปริมาณสารปนเปื้อนที่ได้รับและสะสมอยู่ในร่างกายด้วย

 

2. สารบอแรกซ์ (Borax)

 

บอแรกซ์เป็นชื่อที่หลายคนคงจะคุ้นหู ว่าเป็นสารอันตรายที่พบได้ในอาหารแปรรูป เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก มะม่วงดอง ผักกาดดอง เพื่อให้อาหารมีความกรอบเด้ง แต่ในความจริงแล้วสารบอแรกซ์เป็นสารเคมีอันตรายที่ห้ามนำมาใช้กับอาหารทุกชนิด เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้ลำไส้และกระเพาะเกิดการระคายเคือง มีผลเป็นพิษต่อตับ ไต และ สมอง  หรือบางรายหากเกิดอาการเฉียบพลัน ก็จะมีอาการปวดหัว อาเจียน อุจจาระร่วง อ่อนเพลีย หรือผิวหนังอักเสบเกิดขึ้นได้

 

 

3. สารกันรา

 

เมื่อพูดชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่หากบอกว่าคือ กรดซาลิซิลิค คงทำให้หลายคนรู้จักว่าคือสารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในอาหารประเภทที่ต้องการกันเชื้อรา เช่น พริกแกง น้ำผักดอง แหนม หมูยอ เป็นต้น หากรับประทานสะสมในร่างกายอาจทำให้เยื่อบุกระเพาะและลำไส้เป็นแผล ถ้าเกิดการแพ้ ก็อาจทำให้เกิดอาการอาเจียน ผื่นคันและมีไข้ หรือถ้าได้รับในปริมาณที่มากอาจทำให้ความดันต่ำถึงขั้นเกิดอาการช็อคได้

 

4. สารฟอกขาว

 

อีกหนึ่งสารอันตรายชื่อคุ้นหู มักพบในอาหารที่รับประทานกันทั่วไป เช่น ถั่วงอก ขิงซอย หน่อไม้ดอง ยอดมะพร้าว น้ำตาลมะพร้าว เป็นต้น ที่คุณสมบัติตามชื่อคือยับยั้งการเปลี่ยนสีของอาหารจากสีขาวเป็นสีน้ำตาล ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นสารฟอกขาวที่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้หรือไม่ เพราะหากเป็นประเภทที่มีความรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการความดันต่ำ อาเจียน อุจาระร่วง แต่หากในรายที่แพ้ หรือเป็นผู้ป่วยโรคหืดหอบหากทำให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

5. สารเร่งเนื้อแดง (ซาลบูตามอล)

 

เพราะเนื้อสัตว์ที่มีสีชมพูแดงจะดูน่ารับประทานกว่าชิ้นที่ดูซีดเซียว จึงได้มีการนำสารเร่งเนื้อแดงมาใช้ในการเลี้ยงสุกร เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่ตรงตามความต้องการของตลาด แต่สารเคมีชนิดนี้ก็ยังคงตกค้างอยู่ในเนื้อที่คุณรับประทานเข้าไป และหากสะสมในปริมาณที่มากอาจทำให้เกิดอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจเต้นแรง และอาจส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

 

6. สารฟอร์มาลิน

 

ในอาหารประเภทที่ต้องการชะลอการเน่าเสีย เช่น อาหารทะเล เครื่องใน เนื้อสัตว์ มักมีการใช้สารฟอร์มาลิน หรือ น้ำยาดองศพ ที่สามารถใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อคงความสดของอาหารให้อยู่ได้นาน เป็นสารที่ค่อนข้างมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว หากได้รับเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน หมดสติ หากรับในปริมาณมากอาจถึงขึ้นเสียชีวิตได้ และยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

 

 

 

หากสังเกตจะเห็นว่าสารปนเปื้อนในอาหารทั้ง 6 ชนิด มักจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะส่งผลเมื่อมีปริมาณสะสมในร่างกาย นั่นหมายความว่าหากคุณรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อนย่อมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างแน่นอน

 

และแม้จะระมัดระวังในการใช้ชีวิตขนาดไหน การมีแผนสำรองในการรับมือเมื่อเกิดโรคภัยที่ไม่คาดคิดโดยเฉพาะในกลุ่มโรคร้ายแรง ก็จะเป็นเสมือนเกราะป้องกันชั้นที่สอง ที่จะช่วยให้คุณวางแผนค่าใช้จ่าย และได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

 

 

แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง ไทยประกันชีวิต

 

ประกันสุขภาพ ประกันมะเร็ง หรือ ประกันโรคร้ายแรง ไทยประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนชีวิต บริหารความเสี่ยง และมีผู้ช่วยที่ดีที่จะรองรับความยุ่งยากด้านปัญหาสุขภาพแม้เป็นโรคร้ายแรงที่มีความเสี่ยงสูง ช่วยให้คุณสามารถออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ด้วยความอุ่นใจไร้กังวล